ข้อมูล อบต.
นายประเสริฐ  ตันคำ - นายกองค์การบริหารส่วนตำบล<br>บ้านสหกรณ์<br>โทร. 066-0453311

นายประเสริฐ ตันคำ

นายกองค์การบริหารส่วนตำบล
บ้านสหกรณ์
โทร. 066-0453311

สายตรงนายก

bansahakorn

informationข่าวประชาสัมพันธ์

ประชาสัมพันธ์ โรคติดเชื้อไวรัสซิกา และป้องกันตน

  • 15 พฤศจิกายน 2566
  • 73 ครั้ง

ประชาสัมพันธ์ โรคติดเชื้อไวรัสซิกา และป้องกันตนในช่วงบริเวณพื้นที่มีฝน อับชื้น น้ำขัง บ้านรก  เป็นแหล่งสะสมยุงลาย มาทำความรู้จักกับโรคและวิธิป้องกันกันนะครับ ????????


โรคไข้ซิกาคืออะไร
โรคไข้ซิกาเกิดจากการติดเชื้อไวรัสซิกา (Zika virus) พบครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2490 ในป่าซิกา ประเทศยูกันดา ซึ่งไวรัสซิกาเป็นอาร์เอ็นเอสายเดี่ยว (single-stranded RNA) อยู่ในตระกูลฟลาวิไวรัส (Flavivirus) จำพวกเดียวกับ ไวรัสไข้เหลือง ไวรัสเดงกี ไวรัสเวสต์ไนล์ และไวรัสไข้สมองอักเสบเจอี โดยมียุงลาย (Aedes aegypti) เป็นพาหะนำโรค
ไวรัสซิก้า (Zika virus; ZIKV) แพร่กระจายได้อย่างไร
1. เกิดจากการถูกยุงลายที่มีเชื้อไวรัสซิกากัด
2. การถ่ายทอดเชื้อจากมารดาสู่ทารกในครรภ์หรือระหว่างการคลอด
3. การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสซิกา
หลังได้รับเชื้อนานเท่าไรจึงมีอาการป่วย (ระยะฟักตัวของโรค)
หลังจากได้รับเชื้อไวรัสซิกา สามารถแสดงอาการได้เร็วที่สุด 3 วัน และช้าที่สุด 12 วัน โดยเฉลี่ยอยู่ในช่วงประมาณ 4-7 วัน โดยอาการที่เห็นได้ชัดเจนคือในช่วง 2-5 วันแรก
อาการเป็นอย่างไร
อาการที่พบบ่อยได้แก่ มีไข้ มักเป็นไข้ต่ำๆ มีผื่นแดงตามบริเวณลำตัวและแขนขา รวมถึงอาจมีผื่นที่ฝ่ามือได้ เยื่อบุตาอักเสบ(ตาแดงแต่ไม่มีขี้ตา) ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ  อาจมีต่อมน้ำเหลืองโต และอุจจาระร่วงซึ่งโดยปกติแล้วอาการเหล่านี้จะเป็นเพียงเล็กน้อย ไม่รุนแรง บางรายอาจมีความผิดปกติทางระบบประสาท (Guillain-Barre syndrome) ซึ่งพบได้ราว 24:100,000  โดยร้อยละ 80 ของผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสซิกาจะไม่แสดงอาการก็ได้
หากมีการติดเชื้อในผู้ป่วยตั้งครรภ์ จะมีผลต่อทารกในครรภ์อย่างไร
ทารกที่คลอดจากมารดาที่ติดเชื้อไวรัสซิกาจะพบการเกิด ภาวะศีรษะเล็ก (Microcephaly) ได้ ไม่ว่ามารดาจะติดเชือ้ไวรัส Zika ในช่วงไตรมาสที่ 1, 2 หรือ 3 และเกิดความผิดปกติได้แม้มารดาไม่มีอาการผิดปกติ     โดยไวรัสจะเพิ่มจำนวนขึ้นภายในเซลล์ประสาทที่ตำแหน่ง neural progenitor cells ทำให้เซลล์ประสาทตั้งต้นถูกทำลาย จึงไม่เกิดการเพิ่มจำนวน (neuronal proliferation) การเคลื่อนย้าย (migration) และการพัฒนาเปลี่ยนแปลง (differentiation) ของเซลล์ประสาท ทำให้เซลล์สมองของทารกที่ติดเชื้อไม่มีการเจริญเติบโต เกิดสมองพิการแต่กำเนิดส่งผลต่อการได้ยิน การมองเห็น พัฒนาการและสติปัญญา
เราจะป้องกันการติดเชื้อไวรัส Zika ได้อย่างไร
1. ป้องกันการถูกยุงกัด
- สวมเสื้อแขนยาวและกางเกงขายาวเพื่อปกคลุมผิวหนัง โดยใช้เสื้อผ้าสีสว่าง ถ้าทำไม่ได้ควรทายากันยุงป้องกัน
- นอนกางมุ้ง และติดมุ้งลวดที่ประตู หน้าต่าง
- กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงทั้งในบ้านและบริเวณบ้าน โดยการทำความสะอาด การเทน้ำทิ้ง หรือครอบฝาภาชนะที่สามารถบรรจุ น้ำเช่น กระถางต้นไม้ เพื่อไม่ให้มีน้ำขังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง
2. ในผู้ได้รับวินิจฉัยว่าติดเชื้อไวรัส Zika ควรมีการป้องกันที่เหมาะสมหากมีเพศสัมพันธ์ อย่างน้อย 1 เดือน
3. ปรึกษาแพทย์ก่อนจะเดินทางไปต่างประเทศ หรือไปในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
ความรู้ดีๆจาก : กรมควบคุมโรค

แชร์ข่าวนี้ให้เพื่อน: